“Wine Testing” หรือกิจกรรมชิมไวน์ ชมไร่องุ่น ถือเป็นกิจกรรมที่มี และได้รับความนิยมมานานแล้วในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเมืองและประเทศ ที่เป็นแหล่งเพาะปลูกองุ่นและผลิตไวน์สำคัญ อาทิ เมืองนาปา รัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐอเมริกา หรือเมือง เคปทาวน์ของแอฟริกาใต้ ส่วนในเมืองไทยเรานั้น แม้กระแสการทัวร์ไร่องุ่นและชิมไวน์ จะยังเป็นเรื่องใหม่ แต่ก็สามารถกล่าวได้ว่า ด้วยชื่อเสียงของไร่องุ่นและโรงบ่มไวน์หลาย ๆ แห่งในไทย รวมถึงไร่องุ่นหัวหินที่ค่อย ๆ เริ่มเป็นที่รู้จัก เป็นที่ยอมรับกันมากขึ้น ทำให้กระแสการท่องเที่ยวเพื่อเยี่ยมชมกรรมวิธีการปลูกองุ่น เก็บเกี่ยว ไปจนถึงการหมักบ่มเป็นไวน์ ก็ได้กลายเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นและเป็นประสบการณ์ที่ผู้คนทั่วไป อยากแวะเวียนมาลองสัมผัสดูสักครั้งค่ะ
ดังนั้น เพื่อเป็นไกด์สำหรับ “มือใหม่” หัดเที่ยวไร่ไวน์หัวหินและลองชิมไวน์ บทความในวันนี้ เรามาพร้อมกับเคล็ดไม่ลับ 5 ประการ ที่มือใหม่ต้องรู้ เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมชิมไวน์ให้ได้อย่างเพลิดเพลิน
1. ขั้นตอนการชิม อมแล้วบ้วน หรือดื่มลงไปเลย
เคล็ดลับแรก ของการชิมไวน์ คือการคลายข้อสงสัยว่าเราควรอมแล้วบ้วนทิ้ง หรือดื่มไวน์ลงไปเลย สำหรับคำตอบข้อนี้ ขอไกด์ให้ว่า แล้วแต่ความสะดวกของผู้ชิมเลยค่ะ เพราะในทางสากลไม่มีแบบไหนถูกหรือผิด
ขึ้นอยู่กับผู้ชิมล้วน ๆ
แต่ที่เราเห็นว่าบางคนเลือกกลั้วไวน์แล้วบ้วนทิ้ง เหตุผลที่เขาทำกันก็เพราะกลัวมึนเมาเสียก่อนนั่นเอง ทั้งนี้ เพราะการชิมไวน์ ในแต่ละครั้ง จะต้องชิมกันหลายชนิด หลายแก้ว ถ้าดื่มหมดคงมีมึน หรือบางคนบ้วนทิ้ง เพราะเป็นพลขับ คนขับรถ ที่ต้องเมาไม่ขับ เมาแล้วกลับบ้านหรือเที่ยวที่อื่นต่อไม่ได้นะคะ
อย่างไรก็ดี หลังๆ มานี้ วัฒนธรรมการชิมไวน์ จะเสิร์ฟไวน์ครั้งละไม่เยอะค่ะ อยู่ที่ประมาณแก้วละ 2-3 ออนซ์ เท่านั้น ดังนั้น ถ้าลองคิดดูคร่าว ๆ แล้วว่าไหว ไม่ได้เป็นคนต้องขับรถบวกกับถ้ารู้สึกเสียดาย คุณก็สามารถดื่มได้เลย ไม่ต้องกลั้วแล้วบ้วนทิ้ง ทั้งนี้ หากต้องการชิมแล้วบ้วนทิ้ง ก็สามารถทำได้ค่ะ โดยคุณไม่ต้องอายที่จะบ้วนต่อหน้าผู้คน เพียงบ้วนทิ้งอย่างเบา ๆ ใกล้ ๆ กับถังบ้วนที่ทางสถานที่จะจัดเตรียมไว้ให้ ไม่ส่งเสียงดัง และระวังกระเด็นเลอะเทอะก็เพียงพอแล้ว
อ้อ ลืมบอกไป การชิมไวน์จะประกอบไปด้วย 3 ขั้นตอน คือ “ดู ดม และชิม” ดังนั้น ก่อนยกแก้วขึ้นดื่มกรึ้บ ๆ นักชิมไวน์ที่ดี จะต้องสังเกต สีและความหนักของเนื้อไวน์ จากนั้นสูดดมเผื่อรับรู้กลิ่น ก่อนค่อย ๆ ชิมแล้วกลั้วเบาๆ ในปากก่อนค่ะ
2. ศึกษาข้อมูล และสอบถามจากวิทยากร
นอกจากจะเข้าร่วมกิจกรรมชิมไวน์ให้บ่อย ๆ อีกหนึ่งเคล็ดลับจำเป็นเพื่อเสริมประสบการณ์ด้านนี้ คือการเก็บเกี่ยวข้อมูลให้ได้เยอะ ๆ นั่นเองค่ะ
โดยทั่วไปแล้วระหว่างการชิมไวน์จะมีวิทยาการบอกเล่าเรื่องราวของสถานที่ โรงบ่มไวน์ และช่วยแยกแยะจำแนก รส กลิ่น สัมผัสของไวน์ที่กำลังนำเสนอ ดังนั้น ในครั้งแรก ๆ หากได้ยินคำศัพท์ใหม่ ๆ แล้วไม่เข้าใจ คุณสามารถสอบถามวิทยากรได้เลย นอกจากจะได้ความรู้ ยังช่วยให้กิจกรรมการนำเสนอไวน์ครั้งนี้เป็นไปในบรรยากาศเป็นกันเอง และสนุกสนานได้มากขึ้นอีกด้วย
3. อย่าชิมไวน์ตอนท้องว่าง
แม้หลาย ๆ คนจะมาด้วยแผนที่ว่า เยี่ยมไร่องุ่น ชิมไวน์เสร็จ แล้วแวะทานอาหารที่ร้านอาหารประจำไร่ อย่างสเต็กจานเด็ด หรือสปาเก็ตตี้จานอร่อย เป็นการปิดท้าย แต่อย่าลืมไปว่า การชิมไวน์ จะต้องมีขั้นตอนของการดื่มแอลกอฮอล์ (เว้นแต่คุณจะเลือกบ้วนทิ้งนะคะ)
ทั้งนี้ ถ้าเอาตามแผนที่ว่า การมาชิมไวน์แบบท้องว่าง ก็จะมึนเมากันได้ง่าย ๆ เพื่อช่วยให้คุณไม่เมา ก่อนเริ่มต้นกิจกรรม ให้หาของรองท้องกันสักนิด อาจจะขนมนมเนยนิด ๆ หน่อยๆ นอกจากนี้การขอน้ำเปล่าดื่มระหว่างกิจกรรมชิมไวน์ ก็สามารถทำได้ และเป็นอีกเคล็ดลับช่วยให้คุณไม่เมาแอ๋ไปเสียก่อน
4. ก่อนชิมไวน์แก้วถัดไป อย่าลืมล้างปากด้วยน้ำดื่ม
เพื่อให้ประสบการณ์ชิมไวน์เป็นไปอย่างสุนทรีย์ สามารถยกเปรียบเทียบ รสชาติและสัมผัสของไวน์แต่ละแก้วได้อย่างถี่ถ้วน ก่อนคุณชิมไวน์แก้วถัดไป ให้ล้างปากด้วยน้ำดื่ม หรือน้ำผลไม้เสียก่อน (สามารถดื่มเลยหรือบ้วนทิ้งก็ได้เช่นกันค่ะ)
5. ร่วมกิจกรรมอย่างผ่อนคลาย และสนุกสนาน
แม้การชิมไวน์จะเป็นกิจกรรมใหม่สำหรับใครหลาย ๆ คน บางคนอาจรู้สึกเกร็ง กลัว ทำอะไรไม่ถูกจนหมดสนุกกันไปเลย
ดังนั้น เคล็ดไม่ลับข้อสุดท้ายที่ต้องแชร์ คือ ขอให้คุณเข้าร่วมกิจกรรมนี้อย่างผ่อนคลาย สบายอารมณ์เลยค่ะ ไม่ต้องเครียด หรือคิดมาก เพราะแม้ชื่อกิจกรรมอย่าง Wine Testing จะฟังดูหรูหรา น่าตื่นเต้น ทว่า การชิมไวน์สนุก ๆ ในไร่องุ่น หรือโรงบ่มไวน์ เป็นกิจกรรมที่ทำเพื่อสันทนาการโดยแท้จริง ดังนั้นขอให้คุณเอ็นจอยกับกิจกรรมนี้ หรือแม้แต่จะชวนผู้สูงอายุ หรือเด็ก ๆ ประจำบ้าน ให้เข้าร่วมกิจกรรมด้วยยังได้ เพราะไร่องุ่นหลาย ๆ แห่ง นอกจากเปิดให้ชิมไวน์แล้วนั้น ยังมีให้ชิมน้ำองุ่น หรือขนมสุดอร่อยพร้อมเสิร์ฟ แก่ทุกท่านไว้ด้วยเช่นกัน
